ReadyPlanet.com
dot
Line ID
dot


7) ปัญหากระพ้อสาเหตุและการแก้ปัญหา

ลูกกระพ้อ..ปัญหา..สาเหตุและการแก้ไข

 1.ระบบสายพานกระพ้อแบบใช้แรงเหวี่ยง(Centrifugal Discharge Bucket Elevator)

  

โครงสร้างของ กระพ้อแบบใช้แรงเหวี่ยง(Centrifugal Discharge Elevator)

          ระบบสายพานกระพ้อแบบใช้แรงเหวี่ยง(Centrifugal Discharge Elevator) เป็นระบบสายพานที่นิยมใช้กันอย่างมากในการขนวัสดุประเภทเม็ดที่มีขนาดเล็กไหลได้ง่าย เพื่อขนถ่ายวัสดุขึ้นในแนวดิ่ง ตัวอย่างวัสดุที่ลำเลียง เช่น อาหารสัตว์ ทราย หิน น้ำตาล สารเคมี และวัสดุอื่นๆอะไรก็ได้ที่มีคุณสมบัติไหลได้ง่าย (Free Flow) กระพ้อแบบใช้แรงเหวี่ยงมีความสามารถในขนถ่ายวัสดุได้ในปริมาณสูง แบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

 

 

แบบที่มีความเร็วช้า (Low Speed) ใช้ลำเลียงวัสดุอุตสาหกรรม (Industrial Type) ที่มีน้ำหนักมากไม่เกิน 1600kg/cubic meter และใช้ความเร็วไม่เกิน 1.78 เมตรต่อวินาที

 

แบบที่มีความเร็วสูง (High Speed) ใช้ลำเลียงวัสดุในอุตสาหกรรมเกษตรกรรมและอื่นๆ เป็นกระพ้อที่ใช้ความเร็วสูงขึ้น โดยใช้ลำเลียงวัสดุที่มีน้ำหนักไม่เกิน 800kg /cubic meter และความเร็วไม่เกิน 5.0 เมตรต่อวินาที

 

2.ทำไมต้องลูกกระพ้อพลาสติก

วัสดุที่ใช้ทำลูกกระพ้อมี 2 แบบคือแบบที่ทำด้วยโลหะและแบบที่ทำด้วยพลาสติก ผู้ผลิตแต่ละค่ายจะออกแบบรูปร่างลูกกระพ้อแตกต่างกันไปให้เหมาะสมกับ ชนิด ขนาด ลักษณะของวัสดุ การใช้งานแต่ละประเภท ตลอดจนความเร็วที่ใช้ในการขนถ่ายด้วย

 

 ตัวอย่างของลูกกระพ้อสำหรับอุตสาหกรรมการเกษตร(Ref: 4B)

  

 

 ตัวอย่างของลูกกระพ้อสำหรับวัสดุอุตสาหกรรมหนัก(Ref: 4B)

  

 

 ตัวอย่างของลูกกระพ้อพลาสติก

   

 ลูกกระพ้อพลาสติก ติดกับสายพานลำเลียงด้วย Nut and Bolt

 

 

  Nut and Bolt ยึดลูกกระพ้อ 2 รูปแรกใช้กับลูกกระพ้อโลหะ รูปสุดท้ายใช้กับลูกกระพ้อพลาสติก

 

            บทความที่นำเสนอต่อไปนี้จะเน้นเรื่องลูกกระพ้อที่ทำด้วยพลาสติก เนื่องจากเป็นลูกกระพ้อที่ใช้งานอย่างแพร่หลาย ราคาถูก และมีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งานหลายประการดังนี้คือ

Ø ประการที่ ลูกกระพ้อพลาสติกมีความทนทานมีอายุการใช้งานยาวนาน

Ø ประการที่ 2 ลูกกระพ้อพลาสติกทนทานต่อการขัดสี (Abrasion Resistance)ได้ดี

Ø ประการที่ ลูกกระพ้อพลาสติกทนต่อการกัดกร่อน (Corrosion Resistance) ได้ดี

Ø ประการที่ ลูกกระพ้อพลาสติกไม่มีคุณสมบัติที่จะทำให้เกิดประกายไฟ (Spark) ซึ่งเป็นสาเหตุที่หนึ่งที่ทำให้เกิดการระเบิดในระบบสายพานกระพ้อ

Ø ประการที่ 5 ลูกกระพ้อพลาสติกมีน้ำหนักเบา ดังนั้นจึงทำให้เกิดแรงดึงในสายพานน้อย ใช้สายพานที่ขนาดแรงดึงน้อย สามารถประหยัดราคาสายพานและพลังงานได้ นอกจากนี้ ลูกกระพ้อพลาสติกยังสามารถติดตั้งอยู่บนโซ่เหล็กได้

Ø ประการที่ 6 ลูกกระพ้อพลาสติกราคาถูก

Ø ประการที่ 7 ถ้าหากระบบกระพ้อลำเลียงทำงานผิดปรกติ เราสามารถทำนายพฤติกรรมและสาเหตุของความเสียหายของการทำงานของระบบกระพ้อลำเลียงจากลักษณะความเสียหายของลูกกระพ้อได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะนำมาแบ่งปันกันในบทความชิ้นนี้

3.เลือกใช้ชนิดของพลาสติกให้ถูกกับประเภทการใช้งาน

ปกติแล้วลูกกระพ้อพลาสติกจะทำด้วย ไนลอน(Nylon) และยูรีเทนหรือโพลียูรีเทน (Polyurethane) การเลือกใช้ ลูกกระพ้อพลาสติกชนิดใด ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ และชนิดของวัสดุที่ขนถ่ายรวมทั้งลักษณะการใช้งาน เช่น  

Ø ลูกกระพ้อพลาสติกทำด้วย Polyethylene เหมาะสำหรับการขนถ่ายวัสดุทั่วไปสำหรับที่มีลักษณะเป็นเม็ดแห้ง (Dry Bulk Solid)

Ø ลูกกระพ้อพลาสติกทำด้วย HDPE เหมาะสำหรับการขนถ่ายวัสดุวัสดุทั่วไป ปุ๋ย และวัสดุที่มีความชื้น

Ø  ลูกกระพ้อไนลอน(Nylon) เหมาะสำหรับการขนถ่ายในกรณีที่วัสดุมีการกระทบกระทั่ง(Impact) สูงอุณหภูมิสูงหรือมีการขัดสี (Abrasive)สูง หรือมีลักษณะเป็นผง

Ø  ลูกกระพ้อ PU หรือ โพลียูรีเทน มีคุณสมบัติค่อนข้างที่จะยืดหยุ่น มีผิวลื่นใช้ลำเลียงวัสดุที่มีความเหนียวและมีความชื้นน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้วัสดุติดลูกกระพ้อหรือใช้ลำเลียงวัสดุที่มีผิวที่แข็ง-คม เช่นแก้ว เม็ดอาหารสัตว์

ตัวอย่างแนวทางการเลือกใช้วัสดุที่ใช้ทำลูกกระพ้อให้เหมาะสมกับการใช้งานและเปรียบเทียบราคาจากผู้ผลิตรายหนึ่งได้จากตารางข้างล่าง

   

  

แนวทางการเลือกใช้ชนิดของลูกกระพ้อพลาสติกให้ถูกกับประเภทการใช้งาน(Ref: 4B)

 

 แนวทางการเลือกใช้ชนิดของลูกกระพ้อพลาสติกให้ถูกกับประเภทการใช้งาน(Ref: BMG)

 

4. หาสาเหตุความเสียหายจากลูกกระพ้อ

 ระบบสายพานกระพ้อ Capacity สูงกับการขนถ่ายสินค้าการเกษตรที่ท่าเรือ อ.ศรีราชาเพื่อลงเรือบรรทุกขนาดใหญ่ส่งต่อไปยังต่างประเทศ

เมื่อใช้ระบบสายพานกระพ้อไปสักระยะหนึ่งหากลูกกระพ้อพลาสติกเกิดความเสียหาย รูปร่างความเสียหายของลูกกระพ้อ สามารถบอกเล่าและสืบค้นถึงสาเหตุของความเสียหาย อัน เนื่องจากการทำงานที่ผิดปรกติของระบบสายพานกระพ้อได้ ความผิดปรกติที่เกิดขึ้น เช่นสายพานเดินไม่ตรงแนว (Misalignment) หรือสายพานหย่อนเกินไป รูปร่างลักษณะความเสียหายของลูกกระพ้อพลาสติกจะสามารถใช้ เป็นข้อมูลบ่งชี้แสดงถึงสาเหตุ เพื่อหาแนวทางและวิธีการแก้ไขให้ถูกต้องต่อไป

ลักษณะความเสียหายของลูกกระพ้อพลาสติก ตำแหน่งที่เสียหาย มีความสัมพันธ์กับสาเหตุและสามารถวิเคราะห์ถึงการทำงานที่ไม่ปกติของระบบกระพ้อลำเลียงได้ เนื่องจากตำแหน่งความเสียหายของลูกกระพ้อ ณ จุดต่างๆจะสามารถบ่งชี้ถึงว่าการเกิดอะไรขึ้นที่ต่ำแหน่งไหนในขณะที่กะพ้อทำงาน การแก้ไขระบบการทำงานของกะพ้อที่ถูกต้องช่วยให้ระบบสามารถทำงานได้ตามประสิทธิภาพที่ต้องการ  และทำให้กระพ้อทำงานได้อย่างลื่นไหล ต่อไปนี้บริษัท คอนเวเยอร์ไกด์ จำกัด (Conveyor Guide Co.,Ltd.) จะแชร์เรื่องการนำสืบหาสาเหตุจากความเสียหายของลูกกระพ้อและการแก้ไข ดังนั้นติดตามบทความนี้จะทำให้ท่านสามารถรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าท่านจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ยังไง

 

5.ตัวอย่างรูปความเสียหายของลูกกระพ้อ สาเหตุและวิธีแก้ไข

   

ปัญหาข้อที่ วัสดุติดกับลูกกระพ้อหลังจากลูกกระพ้อได้จ่ายวัสดุ (Discharge) ไปแล้ว

ปัญหา ลูกกระพ้อที่มีวัสดุติดหลังจากที่ลูกกระพ้อได้จ่ายวัสดุออกไปแล้วได้ไปแล้ว จะทำให้ระบบไม่สามารถทำงานได้เต็ม Capacity ที่ต้องการ หรือทำให้วัสดุลำเลียงตกลงที่ฐานด้านล่าง (Boot) ของกระพ้อ และบางครั้งวัสดุที่ค้างติดในลูกกระพ้ออาจจะก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับความสกปรกและการปนเปื้อนในวัสดุที่จะนำไปใช้ใน Process ต่อไปได้

สาเหตุ ปัญหานี้เกิดจาก การที่เราเลือกใช้วัสดุที่ทำลูกกระพ้อที่ผิดประเภท

การแก้ไข แนะนำให้ใช้ ลูกกระพ้อโพลียูรีเทน เนื่องจากโพลียูรีเทน สามารถยืดหยุ่น(Flex) ได้ขณะทำงานทำให้สามารถสลัดหรือดีดวัสดุที่ลำเลียง ออกไปได้และโพลียูรีเทนมีผิวลื่นทำให้วัสดุติดลูกกระพ้อได้ยาก (Non-Stick)

 

ปัญหาข้อที่ ลูกกระพ้อ กรอบ-แตกและเสียหาย

 

ปัญหา ลูกกระพ้อแตกหรือกรอบ

สาเหตุปัญหานี้แสดงว่าเลือกใช้วัสดุที่ทำลูกกระพ้อไม่สามารถทนต่อการใช้งานในสภาวะที่มีสิ่งแวดล้อมในอุณหภูมิที่สูงได้

การแก้ไข เมื่อใช้ลูกกระพ้อที่ไม่สามารถทนความร้อนสูงได้ ควรมีขบวนการลดอุณหภูมิของวัสดุลงก่อน ทำให้วัสดุลำเลียงเย็นลงก่อนจะเข้าสู่ระบบกระพ้อโดย พิจารณาจาก ความสามารถในการทนความร้อนของวัสดุที่ใช้ทำลูกกระพ้อนั้นๆ สำหรับความสามารถทนความร้อนของลูกกระพ้อสามารถสอบถามข้อมูลได้จากผู้ขาย ความสามารถในการทนความร้อน อาจจะแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยแล้วแต่ผู้ผลิต ยกตัวอย่างได้ดังต่อไปนี้ วัสดุที่ใช้ทำลูกกระพ้อพีพี(Polyethylene) สามารถ ใช้งานในอุณหภูมิ -60°F ถึง 200°F (-51°C to 93°C) ลูกกระพ้อไนลอน (Nylon) สามารถทำงานได้ ตั้งแต่ -40°F ถึง 275°F (-51°C to 100°C).ดังนั้นเราต้องเลือกวัสดุที่ใช้ทำลูกกระพ้อให้เหมาะสมกับการใช้งานพร้อมกับพิจารณาเรื่องราคาและความคุ้มค่าประกอบการตัดสินใจ

 

ปัญหาข้อที่ ปากลูกกระพ้อสึกหรอจนคม

ปัญหา ปลายลูกกระพ้อขูดกับวัสดุอื่นจนสึกหรอจนคม (Sharp Edge)

สาเหตุ ปัญหานี้แสดงว่าลูกกระพ้อขูดกับวัสดุบริเวณส่วนล่าง (Boot) ของกระพ้อขณะทำงานจนทำให้พลาสติกเกิดสึกหรอ หรือลูกกระพ้อขูดกับซองกระพ้อซึ่งมาจากสาเหตุ สายพานหย่อนมีความตึงที่ไม่เพียงพอ

การแก้ไข ปรับตรึง Take up เพื่อทำให้สายพานตึงมากขึ้น ลูกกระพ้อจะลอยสูงขึ้นไม่ขูดกับ Boot ตรวจสอบว่าซองกระพ้อตั้งได้ฉากหรือไม่ ให้ปรับซองให้อยู่ในแนวดิ่งเสมอ

ปรับ Screw Take-Up เมื่อสายพานหย่อน

 

ปรกติแล้ว Gravity Take-Up จะปรับความตึงได้สม่ำเสมอโดยอัตโนมัติ ยกเว้นสายพายยืดตัวจนหมดระยะปรับแล้ว จะต้องตัดต่อสายพานใหม่

 

 

ปัญหาข้อที่ ด้านข้างลูกกระพ้อสึกหรอจากการขูดหรือสัมผัสกับวัสดุอื่นระหว่างทำงาน

ปัญหา ด้านข้างของลูกกระพ้อสึกหรอเสียหายตลอดแนว

สาเหตุ แสดงว่ามีปัญหาเรื่อง Alignment ของสายพาน สายพานเดินไม่ตรงแนว ทำให้ด้านข้างของลูกไปกระทบกับผนังของโครงสร้าง (Casing) ทำให้ ด้านข้าง ลูกกระพ้อด้านข้าง ถูกขูดออกไปจนสึกหรอ

การแก้ไข ปัญหาด้านข้างของลูกกระพ้อเสียหาย แสดงว่าสายพานกระพ้อ ไปกระทบเสียดสีกับภายใน Casing ทำให้ ลูกกระพ้อด้านข้างถูกขูดออกไป ให้ปรับ Alignment ของสายพานและซองกระพ้อ ปรับตึงสายพาน

 

 

  ข้อแนะนำสำหรับการปรับ Alignment ของสายพาน 

 

 

 

 ปัญหาข้อที่ ผิวข้างในลูกกระพ้อสึกหรอเป็นรูจากการกระทบหรือสัมผัสกับวัสดุอื่นระหว่างทำงาน

ปัญหา ผิวภายในลูกกระพ้อเสียหายบางหรือเป็นรู มีลักษณะเหมือนถูกขัดด้วย Sand Blast

สาเหตุ เกิดจากการป้อนวัสดุเข้าสู่ลูกกระพ้อโดยใช้ความเร็วมากเกินไปทำให้วัสดุกระทบกับลูกกระพ้ออย่างแรง ผิวของลูกกระพ้อจะค่อยๆบางและหลุดออกจนกระทั่งเป็นรูในที่สุด

การแก้ไข ทำได้ วิธีคือ

Ø ติดตั้งตัวกั้น(Buffer) ที่รางป้อนเพื่อลดความเร็วของวัสดุและป้องกันไม่ให้วัสดุกระทบกับลูกกระพ้อโดยตรง

Ø เปลี่ยนลูกกระพ้อเป็นโพลียูรีเทนที่สามารถทนการขัดสี และการกระแทกได้ดี

 

 ปัญหาข้อที่ ปากลูกกระพ้อยืด โก่ง แตก หรือ bolt หลุดจากสายพาน

ปัญหา ข้อที่ ปากลูกกระพ้อยืดตัว โก่ง แตก หรือน็อตหลุดออกมา

สาเหตุ ปัญหานี้แสดงว่ามีการติดขัดอยู่ภายในซองกระพ้อลูกกระต้อต้องไปขูดหรือไปติดขัดภายในซอง หรืออาจจะเกิดจาก สาเหตุสายพานหย่อนเกินไป

การแก้ไข ตรวจสอบทั่วไปทั้งหมดว่าระยะห่างต่างๆมีเพียงพอที่จะให้ลูกกระพ้อเคลื่อนที่ได้อย่างไม่ติดขัด หรือตรวจสอบว่ามีวัสดุอะไรกีดขวางแนวการเคลื่อนที่ของลูกกระพ้อหรือไม่ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่มีโอกาสสัมผัสกับลูกกระพ้อ เช่น ลิ้นกันวัสดุล่วง (Throat-Plate )เช็คระยะห่างระหว่างลิ้นและลูกกระพ้อว่ามีระยะห่างที่จะไม่ทำให้ลูกกระพ้อไปกระทบ ตรวจสอบการสะสมของวัสดุบริเวณ Boot ว่ามีวัสดุหรืออะไรแปลกปลอมติดอยู่ที่บูทส่วนล่างที่จะทำให้ลูกกระพ้อติดได้หรือเปล่า ทำความสะอาด Boot หลังจากการใช้งานแล้ว เช็ควัสดุที่ติดตาม Inspection Door ว่าขวางทางการขึ้นลงของลูกกระพ้อหรือไม่ ปรับสายพานให้ตึง เพื่อให้โซ่หรือสายพานไม่แกว่งไปกระทบกับส่วนต่างๆของโครงสร้างของต้นกระพ้อ และสุดท้ายพิจารณาเปลี่ยนลูกกระพ้อเป็นไนลอนเพื่อให้ทนต่อการกระแทกจะได้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

 

ปรับลิ้นกันวัสดุล่วง (Throat-Plate) ให้ได้ระยะที่เหมาะสม

 

    

  ปัญหาข้อที่ วัสดุตัก/เติมไม่เต็มลูกกระพ้อ

 ปัญหา วัสดุตัก/เติมไม่เต็มลูกกระพ้อหรือลูกกระพ้อจ่ายวัสดุ ก่อน-หรือ-หลัง จังหวะปล่อยที่เหมาะทำให้เกิดภาวะวัสดุตกกลับคืนสู่ Boot (Back-Leggingด้านล่างปัญหานี้ทำให้ลดประสิทธิภาพของระบบ

สาเหตุ อากาศดันวัสดุออกจากลูกกระพ้อหรือความเร็วของสายพานมีมากเกินไป

การแก้ไข วัสดุเติมไม่เต็มลูกกระพ้อ สามารถแก้ไขได้โดยใช้ลูกกระพ้อแบบเจาะรูทำให้ อากาศสามารถไหลผ่านออกจากลูกกระพ้อได้ง่ายขณะที่ลูกกระพ้อตักวัสดุ ลงเต็มลูกกระพ้อได้ง่าย ลูกกระพ้อเจาะรูมีหลายหลายแบบขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน เนื่องจาก หรือขณะที่ลูกกระพ้อตักหรือสาดวัสดุ อากาศจะไหลเข้าสู่ลูกกระพ้อป้องกันการเกิดภาวะสุญญากาศภายในลูกกระพ้อดังนั้นวัสดุจะสามารถสามารถ ตักหรือสาด ออกไปหมด แต่ถ้าเกิดภาวะสุญญากาศในลูกกระพ้อแล้ววัสดุบางส่วนจะถูกดูดติดกับลูกกระพ้อสาดออกไม่หมด จนเลยตำแหน่งทางออกและตกลงมาที่ ด้านล่าง(Boot) อีกครั้งหนึ่ง สำหรับวัสดุที่มีความหนาแน่นสูงจำพวกแป้ง(Flour)หรือวัสดุที่มีลักษณะเป็นผง เมื่อลูกกระพ้อตักวัสดุ วัสดุจะไล่อากาศภายในลูกกระพ้อผ่านรูออกไป ทำให้มีแรงต้านของอากาศน้อยดังนั้นวัสดุจึงสามารถบรรจุลงเต็มลูกกระพ้อได้ง่าย เมื่อลูกกระพ้อเคลื่อนที่ถึงตำแหน่งจ่ายวัสดุ(Out let)  รูที่ลูกกระพ้อจะทำให้อากาศไหลเข้าสู่ลูกกระพ้อป้องกันการเกิดภาวะสุญญากาศ ที่จะดูดวัสดุติดไปกับลูกกระพ้อได้ วัสดุจะจ่ายออกไปได้หมดโดยง่าย  สำหรับวัสดุที่มีความหนาแน่นน้อยหรือวัสดุที่เบามากๆ การเจาะรูที่ลูกกระพ้อจะช่วยลดความปั่นป่วนของอากาศในซองกระพ้อขณะที่กระพ้อเคลื่อนที่ในขาขึ้น และลดกระแสการหมุนเวียนของอากาศภายในซองกระพ้อในขาลง ที่เป็นสาเหตุที่อากาศดึงวัสดุที่เบาตกสู่ด้านล่าง(Boot) อีกครั้งหนึ่ง

   

             สุดท้าย บริษัท  คอนเวเยอร์ไกด์ จำกัด(Conveyor Guide Co..Ltd.) ขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่ให้กำลังใจติดตามอ่านผลงานและสนับสนุนสินค้าของเรา เราสัญญาว่า จะนำเสนอเรื่องราวดีๆมีประโยชน์มาให้ท่านได้เรียนรู้ร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เราจะตอบสนองท่านอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่หยุดนิ่ง เราไม่เคยทำงานลวกๆ หรือลดระดับการปฏิบัติงานตนเอง เราทราบวิธีและมีความสามารถ ที่จะสร้างสร้างความ เรียบง่ายบนซับซ้อนอยากใช้เราก็ติดต่อเราครับ ง่ายนิดเดียว สงสัยสิ่งใด ส่งรายละเอียดทั้งหมดมาทาง E-mail จะสะดวกดีมากครับ อยากรู้อะไรเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน โทรศัพท์มาสอบถามรายละเอียด เรายินดีให้คำปรึกษาตลอดเวลา หรือต้องการให้เราไปอบรมหรือจัดสัมมนาให้หน่วยงานบำรุงรักษาในหน่อยงานของท่านก็ได้ (มีค่าบริการนะครับ) ไม่เพียงแต่เรื่องนี้เท่านั้นนะครับ เรื่องอะไรก็ได้ที่ท่านอยากรู้เกี่ยวกับสายพานลำเลียงก็ลองติดต่อเข้ามาได้อะไรที่แบ่งๆกันได้และไม่เปลืองทรัพยากรจนเกินไปก็ยินดีรับใช้ฟรีครับ เพราะเรามี Motto การทำงานคือ ‘’Together We Share ไปด้วยกัน...เผื่อแผ่กัน...แลกเปลี่ยน...เรียนรู้ ร่วมกัน’’ ครับ เราจะหาความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบลำเลียงมานำเสนออย่างสม่ำเสมอ มีของเท่าไหร่ก็ปล่อยหมด ไม่มี กั๊ก ไม่มีดึง ไม่มีเม้ม ถึงแม้ว่าเราจะเดินช้า...แต่เราก็ไม่เคยหยุดเดิน แล้วพบกันใหม่ครับขอบคุณที่ติดตาม

Website

:www.conveyorguide.co.th 

Email

Info@conveyorguide.co.th

Tel. 

: 02-992-1025, 090-9076077, 083-1318644

Fax.

: 02-992-1022

 




สายพานกระพ้อแบบใหม่ BUCKET CONVEYOR BELT NEW GENERATION

จำหน่ายสายพานกระพ้อแบบใหม่ PVC SOLID WOVEN BUCKET ELEVATOR BELT