ReadyPlanet.com
dot
Line ID
dot


1) ก่อนซื้อ PU & PVC

เข้าใจสายพาน Lightweight (PU/PVC/Teflon/Silicone) แบบง่ายๆ..ชิวๆ

                   

           ายพาน Lightweight (PU/PVC/Teflon/Silicone) มีมากมายหลายร้อยSpecifications ดังนั้นผู้ซื้อควรต้องมีความรู้เรื่อง สายพาน PVC BELT หรือ PU BELT ไว้บ้าง เพื่อจะได้คุยกับผู้ขายรู้เรื่องและเวลาซื้อจะได้ของถูกต้องตรงกับจุดประสงค์ในการใช้งาน (Application) ของแต่ละท่านเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับเงินที่ท่านต้องจ่ายไป

 

ความรู้เบื้องต้นง่ายๆ ที่ควรรู้สำหรับสายพาน Lightweight (PU/PVC/Teflon/Silicone) คือ

1สายพาน Lightweight (PU/PVC/Teflon/Silicone)หรือเรียกกันทั่วไปว่า สายพาน PVC และ สายพาน PU จัดเป็นสายพาน ชนิด Thermoplastic ประเภทสายพานลำเลียง (Conveyor Belt)  ที่ใช้งานขนาดเบา (Light Load)  มาตรฐานEuropean ให้คำจำกัดความสายพาน Lightweight ว่ามีค่า Breaking Strengthอยู่ระหว่าง 100-1000 N/mm

2โครงสร้าง (Structure)ของสายพาน ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ

           2.1ส่วนที่เป็นเส้นใย (Tension Member) ทำหน้าที่รับแรงดึง (Tension)เหมือนกับสายพานยางดำที่เรียกว่าชั้นผ้าใบ(Carcass)

           2.2) ส่วนที่เป็นผิวสายพาน Top and Bottom Cover (บนและล่างทำหน้าที่ป้องกันส่วนที่เป็นเส้นใยไม่ให้เสียหาย และทำหน้าที่เป็นสื่อ        (Media) ใน  การลำเลียงวัสดุด้วย

           2.3) ส่วนที่ทำหน้าที่เป็นตัวยึดระหว่าง ส่วนที่เป็นเส้นใย (carcass กับเส้นใย (carcass )และยึดกับส่วนที่ป็นผิวสายพาน Top and BottomCover (บน    และล่าง

   

         3) สารที่ใช้เคลือบผิวสายพาน (Coated Material) มีหลายชนิด ประกอบด้วย PVC,PU,SBR,NR ,NBR,Silicone ,PO,PE ,SI

 

 

 

คุณสมบัติเบื้องต้นของสารเคลือบผิวสายพาน  มีพอสังเขปดังนี้

PVC       ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วๆไปที่มีสิ่งแวดล้อมปกติ

PU          ทนความร้อน ทนสารเคมี ทนสารเสียดสี ใช้งานได้หนักกว่าสายพาน PVC ใช้ในโรงงานเหล้า โรงงานเชือกไนล่อน โรงงานผลิตภัณฑ์ไม้

SBR       การใช้งานใกล้เคียงกับยางธรรมชาติ ทนต่อน้ำมันเบรกและทนการสึกหรอดี ต้านทานไฟฟ้า ใช้ในโรงงานทั่วไป

NBR       ทนน้ำมันประเภทปิโตรเลียม น้ำมันหล่อลื่น น้ำมันพืช/สัตว์ ยกเว้น น้ำมันเชื้อเพลิง ทนสารเคมี ทนการเสียดสี ทนร้อน ใช้ในโรงงานทอผ้า/ฟอกย้อม    โรงงานสังกะสี โรงงานกระดาษ โรงพิมพ์

BR          ทนการสึกหรอและมีการกระเด้งตัวดี

CR          ทนไฟ และทนต่อสภาพภูมิอากาศทั่วไปได้ดี ทนน้ำมัน ทนร้อน และทนกรดทนด่างๆได้ ใช้ในโรงงานเหล็ก โรงงานสังกะสี โรงงานกระจก โรงงานกล่อง    กระดาษ ไม้อัด หรือโรงงานแก้ว โรงงานเคลือบขัดเงา

EPDM     ทนอุณภูมิค่อนข้างสูงถึง 150 องศาเซลเซียส และทนกรดด่าง

NR          ทนต่อการเสียดสี ทนต่อแรงกดอัดได้ดี ใช้ในโรงงานทอผ้าโรงงานกล่องกระดาษ และโรงงานทั่วไป

SI           (Silicone) ทนร้อนได้ถึง 380˚ผิวลื่น ใช้ในโรงงาน โรงเหล็ก เคลือบผิว โรงงานพลาสติก โรงงานผลิตแผ่นฟิมส์ โรงงานกระสอบ โรงงานทอผ้า โรงงาน  พรม

 

ขั้นตอนการเลือกซื้อสายพานให้ได้ตาม Specification 

ใน Concept ของค่ายยุโรปเขาพิจารณาดังนี้

 1) รู้ Product Conveyed > เลือกCover

 2) รู้Mechanical Configulation > เลือกCarcass

 3) รู้ ข้อ 1 และข้อ 2 ได้ Belt Type

 

เริ่มต้นด้วยการถามตัวเองเสียก่อน :

 1)วัสดุที่ลำเลียงคืออะไร? แล้วจะลำเลียงยังไง?

 2)เลือกคุณสมบัติของผิวสายพาน Top and Bottom Cover  (บนและล่าง) ให้ถูกต้องตามประเภทของการใช้งานและเหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมเช่น

       §  ผิวสายพานทนความสึกหรอ (Wear Resistance)

§  ผิวสายพานทนความร้อน (Heat Resistance)

§  ผิวสายพานทนน้ำมัน (Oil Resistance)

§  ผิวสายพานทนสารเคมี (Chemical Resistance)

§  ผิวสายพานทนเปลวไฟ (Flame Resistance)

§  สายพานใช้งานในทางลาดเอียง (Inclined / Declined) เรียกว่าสายพานบั้ง

(Pattern Belt) หรือสายพานผนังยืดหยุ่น (Sidewall Belt)

จากคำตอบข้อ 1 และ ข้อ 2 เราจะสามารถเลือก สมบัติของผิวสายพาน Top and Bottom Cover (บนและล่าง) และความหนาได้

 

 3)   ดูระบบกลไก( Mechanical)การทำงานของ Conveyor>Pulley Diameter>Support Bed>Drive Type>ความเร็ว (Belt Speed) >Tracking system

จากคำตอบข้อ เราจะสามารถเลือกความแข็งแรงของชั้นผ้าใบ (Carcass) ได้

 

 คำถามที่ผู้ขายจะถามผู้ซื้อเตรียมคำตอบไว้ได้เลย

·  ชนิดของวัสดุที่ลำเลียง?

·  Pulley Diameter ตัวเล็กสุดโตเท่าไร? ..มม.(ใช้เลือกความหนาและเส้นใยของสายพาน

·  ความเร็วของสายพาน....M/S(Meter/Second)

              ·  ประเภทของสายพานที่อยากซื้อเป็น PVCหรือ PU

·  Specification ยี่ห้อเดิมของสายพาน?

·  แรงดึงเท่าไหร่? (ตอบยากมากครับ ผู้ขายจะพยายามเลือกให้ตามของเดิมไปก่อน)

·  หน้ากว้าง (Belt Widht) ของสายพาน.....................มม?.(จำเป็นต้องรู้)

·  ความหนาของสายพานเดิม......................มม.?

·  ความยาวของสายพาน....มม.  ต่อกลม หรือ ตัดยาว

·  มี Guide Belt หรือไม่    /   ขนาด................

·  มี Cleat หรือไม่ /   ขนาด................. (ขนส่งบนพื้นเอียง)

·  ประเภทของสายพานที่ต้องการ (เลือกให้ถูกต้องตามประเภทการใช้งาน)

§ทนสึกหรอ                      

§ทนน้ำมัน            

§ทนความร้อน

§ทนสารเคมี                    

§ทนไฟ                  

§ลำเลียงอาหาร

§สายพานบั้ง                     

§สายพาน Sidewall อื่นๆ...........................

 

 ·  น้ำหนักของชิ้นงาน.....................กก. (ใช้เลือกความหนาของสายพาน)

 ·  สิ่งแวดล้อมโดยทั่วไปในโรงงาน(ใช้เลือกประเภทของสารเคลือบสายพาน)

       §  อากาศร้อน/เย็น

         §  เปียก

         §  ชื้น

         §   มีสารเคมี

         §  มีฝุ่นมาก

 

 

ของแถมครับเปรียบเทียบสายพาน PVC และ PU

 

  PVC

                  PVC    ผิวจะหนืด                  

                  PVC    ทนร้อนได้ไม่เกิน 80˚c     

                  PVC    ทนสารเคมีได้พอสมควร        

                 PVC    ราคาถูก

  PU 

                  PU     ผิวลื่นกว่า (ใช้งานที่ต้องการ Friction น้อย)

            PU     ทนร้อนได้ถึง 100 ˚

            PU     ทนสารเคมีได้ดี 

            PU     ราคาแพงกว่า แต่ทนทานกว่า

 




Lightweight Conveyor Belt

2) ทำไมต้อง PU&PVC article
3) Special Belt (สายพานพิเศษ) article
4) Special Belt2 (สายพานพิเศษภาค 2) article